เตือนครูและผู้ปกครองระวังเด็กเล็กป่วยโรคมือ เท้า ปาก แนะคัดกรองเด็กทุกเช้า

กรมควบคุมโรค เตือนครูและผู้ปกครองระวังเด็กป่วยโรคมือ เท้า ปาก โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ปีนี้พบผู้ป่วยกลุ่มนี้แล้วร้อยละ 87 ขณะนี้อุณหภูมิของประเทศไทยเริ่มลดลงอีกครั้ง แนะสถานศึกษาคัดกรองเด็กนักเรียนทุกเช้าก่อนเข้าเรียน และสอนให้เด็กล้างมือเป็นประจำ


  เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคและ  ภัยสุขภาพในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงนี้ ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในหลายพื้นที่และหลายกลุ่มอายุ โดยเฉพาะกลุ่ม  เด็กเล็ก กลุ่มวัยเรียน และกลุ่มผู้สูงอายุ ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาอุณหภูมิเริ่มลดลงอีกระลอก และเริ่มมีรายงานพบการป่วยด้วยโรคติดต่อเป็นกลุ่มก้อนทั้งในโรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก ซึ่งสถานที่ดังกล่าวมักพบการติดเชื้อโรคในกลุ่มเด็กเล็กและกลุ่มวัยเรียนบ่อยครั้ง กรมควบคุมโรค จึงขอให้ครูและผู้ปกครองระมัดระวังโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคมือ เท้า ปากที่เด็กในปกครองเป็นพิเศษในช่วงสัปดาห์นี้


  โรคมือ เท้า ปาก ติดต่อจากการได้รับเชื้อไวรัสเข้าทางปากโดยตรง เชื้อไวรัสจะติดมากับมือหรือของเล่นที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลาย น้ำจากแผลตุ่มพองหรืออุจจาระของผู้ป่วย หรือติดต่อจากการไอ จาม รดกัน จึงพบได้มากในกลุ่มเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี โรคนี้อาจมีอาการเล็กน้อย เช่น  มีไข้ ผื่น ตุ่มน้ำใส หรือเม็ดแดงๆ ในปาก ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือก้น  ซึ่งส่วนใหญ่จะหายได้เอง ใน 7-10 วัน ทั้งนี้ โรคนี้ไม่มียารักษา ไม่มีวัคซีน จะรักษาตามอาการ  ถ้าหากเด็กมีอาการแทรกซ้อน เช่น ไข้สูง ซึม อาเจียน หอบ ต้องรีบนำเด็กไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลทันที เพราะอาจติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์รุนแรง เสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้มากกว่าสายพันธุ์ปกติ

 

ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบว่าสถานการณ์ในปี 2561 นี้ ประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปาก 2,032 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในภาคเหนือ รองลงมาคือภาคกลาง โดยเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีป่วยเป็นร้อยละ 87 ของผู้ป่วยทั้งหมด เด็กอายุ 1-2 ปีพบป่วยมากที่สุด

 

การป้องกันโรคมือ เท้า ปากที่ดีที่สุดคือ การรักษาสุขลักษณะส่วนบุคคล โดยครูและผู้ปกครองควรสอนให้เด็กรู้จักการล้างมืออย่างถูกต้อง โดยสอนจนเกิดเป็นทักษะเพื่อป้องกันโรคในระยะยาว อีกทั้งในสถานศึกษาควรจัดให้มีจุดล้างมือพร้อมอุปกรณ์ เช่น สบู่หรือเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือ พร้อมทั้งจัดคัดกรองเด็กนักเรียนทุกเช้าก่อนเข้าห้องเรียน เพื่อตรวจดูนักเรียนที่มีอาการแสดงของโรค หากพบเด็กป่วยให้แยกออกมา แจ้งผู้ปกครองมารับกลับ และพักรักษาจนกว่าจะหายเป็นปกติ สำหรับผู้ปกครอง นอกจากสอนให้เด็กล้างมือเป็นแล้ว ควรส่งเสริมให้เด็กล้างมือบ่อยๆ ทั้งก่อนรับประทานอาหาร และหลังใช้ห้องน้ำ พร้อมทั้งหมั่นสังเกตอาการของบุตรหลาน  หากมีอาการควรพิจารณาให้เด็กหยุดเรียน และพักรักษาตัวให้หายก่อน

 

แหล่งที่มาอ้างอิง: สำนักโรคติดต่อทั่วไป / สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค